แชร์

วิธีปกป้องข้อมูลองค์กร Ransomware

อัพเดทล่าสุด: 31 ก.ค. 2025
7 ผู้เข้าชม
  1. สร้างการรับรู้และอบรมพนักงาน (Security Awareness Training)
    พนักงานเป็น ด่านหน้า ในการป้องกันภัยไซเบอร์
    จัดอบรมให้รู้จัก: อีเมล Phishing / Link ปลอม ความเสี่ยงจากการเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้แหล่งที่มา ทดสอบด้วยการส่ง "อีเมลจำลองฟิชชิ่ง" เป็นระยะ
  2. ติดตั้งระบบ Endpoint Protection และ Anti-Ransomware
    ใช้โปรแกรมที่มีการป้องกันแบบ Real-time
    ฟีเจอร์ที่ควรมองหา: Behavioral Analysis (ตรวจพฤติกรรมต้องสงสัย) Ransomware Rollback (ย้อนกลับไฟล์ที่ถูกเข้ารหัส)
  3. สำรองข้อมูล (Backup) อย่างสม่ำเสมอ และปลอดภัย
    สำรองทั้งแบบ Online และ Offline
    ใช้หลัก 3-2-1: ข้อมูล 3 ชุด เก็บในสื่อ 2 ชนิด (Cloud และ External Drive) เก็บ 1 ชุดไว้นอกสถานที่หรือระบบเครือข่าย ทดสอบการ กู้คืนข้อมูล (Restore Test) เป็นประจำ
  4. จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล (Access Control & Least Privilege)
    ไม่ให้สิทธิ์เกินความจำเป็น
    ใช้ระบบ Role-based Access Control (RBAC) ใช้ File Permission เพื่อแยกระดับความลับ หากเครื่องใดติด Ransomware จะได้ไม่แพร่กระจายไปทั้งระบบ
  5. ติดตั้ง Email Security Gateway และกรองสแปม
    ป้องกันอีเมลฟิชชิ่งที่เป็นช่องทางหลักของ Ransomware คัดกรองไฟล์แนบอันตราย (เช่น .exe, .js, .zip) ตรวจสอบชื่อผู้ส่งและโดเมนที่ไม่น่าเชื่อถือ
  6. อัปเดตระบบและซอฟต์แวร์เสมอ (Patch Management) แฮกเกอร์มักโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบที่ไม่ได้อัปเดต อัปเดต OS, Browser, ซอฟต์แวร์สำนักงาน และระบบสำคัญใช้ระบบอัตโนมัติในการติดตามและจัดการ Patch
  7. ใช้ Firewall และ Network Segmentation แบ่งแยกเครือข่ายภายใน (เช่น HR กับ Finance แยก subnet) ป้องกันการแพร่กระจาย Ransomware ไปทั่วองค์กร
    ใช้ Firewall ที่มี Deep Packet Inspection (DPI)
  8. ตรวจสอบและวิเคราะห์ Log อย่างต่อเนื่อง (SIEM/XDR)
    ใช้ระบบ Security Information and Event Management (SIEM) หรือ XDR ในการ: วิเคราะห์พฤติกรรมผิดปกติ แจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ติดตามการเข้าถึงไฟล์ผิดปกติ เช่น การเข้ารหัสไฟล์จำนวนมาก
  9. จัดทำนโยบายรับมือเหตุการณ์ (Incident Response Plan)
    กำหนดลำดับขั้นตอนเมื่อถูกโจมตี เช่น: ตัดเครือข่าย / ปิดเครื่องทันที แจ้งทีม IT และผู้บริหาร แจ้งสำนักงาน PDPA (ถ้าเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล) ซ้อมแผนตอบสนองเป็นประจำ (Cyber Drill)
  10. ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง PDPA: ต้องมีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการรั่วไหล Cybersecurity Act: ต้องรายงานเหตุภัยคุกคามร้ายแรง
    ISO/IEC 27001: มาตรฐานจัดการความมั่นคงสารสนเทศ NIST Framework / CIS Controls: เป็นแนวทางสากรในการเสริมความปลอดภัย

บทความที่เกี่ยวข้อง
Information Security
ทำไมถึงมีความสำคัญ และมีประโยชน์ยังไงในปัจจุบัน
27 ก.ค. 2025
10 วิธีเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ใกล้ตัว
เพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ในชีวิตประจำวัน ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ง่าย ๆ เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สินดิจิทัลจากการโจมตีไซเบอร์
27 ก.ค. 2025
ข้อบังคับด้าน Cybersecurity ที่องค์กรต้องรู้
องค์กรในประเทศไทยและระดับสากลควรรู้ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย มาตรฐาน และลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์
27 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy