10 วิธีเพิ่มความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ใกล้ตัว
อัพเดทล่าสุด: 1 ส.ค. 2025
8 ผู้เข้าชม
- ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและไม่ซ้ำกัน (Strong & Unique Passwords)
รายละเอียด: ควรมีความยาวอย่างน้อย 1216 ตัวอักษร
ควรประกอบด้วย:
ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ (AZ)
ตัวอักษรพิมพ์เล็ก (az)
ตัวเลข (09)
สัญลักษณ์พิเศษ (!, @, #, $ ฯลฯ)
หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ หรือชื่อ
ใช้ Password Manager ในการจัดเก็บรหัสผ่าน - เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication, MFA)
รายละเอียด: เป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยนอกจากรหัสผ่าน เช่น:
รหัส OTP ที่ส่งไปยังมือถือหรืออีเมล
แอปยืนยันตัวตน (เช่น Google Authenticator, Microsoft Authenticator)
การยืนยันด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า
หากมีให้เลือก ควรใช้ MFA สำหรับบริการที่สำคัญ เช่น อีเมล, แบงก์ออนไลน์, ระบบองค์กร - อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบอย่างสม่ำเสมอ (Software Updates & Patching)
รายละเอียด: ซอฟต์แวร์ล้าสมัยมักมีช่องโหว่ (Vulnerability) ที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตีได้
อัปเดต:
ระบบปฏิบัติการ (Windows, macOS, Android, iOS)
โปรแกรมประยุกต์ (เช่น Microsoft Office, Adobe Reader)
Browser และปลั๊กอิน
ใช้การตั้งค่า อัปเดตอัตโนมัติ (Auto-update) ถ้าเป็นไปได้ - ติดตั้งและอัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัส (Antivirus/Antimalware)
รายละเอียด:
เลือกโปรแกรมที่เชื่อถือได้และมีระบบป้องกันแบบเรียลไทม์ (Real-time Protection)
อัปเดตฐานข้อมูลไวรัส (Virus Definition) อย่างสม่ำเสมอ
สแกนระบบเป็นประจำทุกสัปดาห์ - ระะวังอีเมลฟิชชิ่ง (Phishing) และเว็บไซต์หลอกลวง
รายละเอียด:
อย่าคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์แนบจากอีเมลที่ไม่น่าไว้ใจ
ตรวจสอบความถูกต้องของผู้ส่งอีเมล เช่น โดเมนปลอม (@gmail-com.co)
หากมีข้อความเร่งด่วน เช่น บัญชีของคุณถูกล็อก หรือ คุณถูกรางวัล ให้ตรวจสอบกับต้นทางก่อนดำเนินการ
ใช้ระบบ Email Security Gateway หรือปลั๊กอินตรวจสอบฟิชชิ่ง - เข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption)
รายละเอียด:
ปกป้องข้อมูลระหว่างการรับส่งและการจัดเก็บ
ใช้โปรโตคอลเข้ารหัส เช่น HTTPS, TLS, SSL ในเว็บไซต์
เข้ารหัสไฟล์หรือฮาร์ดดิสก์ด้วย BitLocker (Windows), FileVault (macOS)
หากส่งข้อมูลสำคัญผ่านอีเมล ให้เข้ารหัสไฟล์แนบและตั้งรหัสผ่านแยกต่างหาก - สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ (Regular Backup)
รายละเอียด:
สำรองข้อมูลที่สำคัญอย่างน้อย สัปดาห์ละครั้ง
เก็บสำรองไว้ในที่ปลอดภัย เช่น:
External Hard Drive (ที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบตลอดเวลา)
Cloud Storage (Google Drive, Dropbox, OneDrive)
ทดสอบการกู้คืนข้อมูล (Restore) เป็นระยะ - ใช้เครือข่าย Wi-Fi อย่างปลอดภัย (Secure Your Network)
รายละเอียด:
เปลี่ยนชื่อเครือข่าย (SSID) และรหัสผ่านจากค่าตั้งต้นของเราเตอร์
ใช้การเข้ารหัสแบบ WPA3 (หรืออย่างน้อย WPA2)
ปิด Remote Access และ WPS ถ้าไม่จำเป็น
แยกเครือข่ายสำหรับผู้มาเยือน (Guest Network) - จำกัดสิทธิ์การเข้าถึง (Access Control & Least Privilege)
รายละเอียด:
ให้สิทธิ์เฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลหรือระบบ
หลักการ Least Privilege (ให้น้อยที่สุดที่จำเป็น)
ใช้การจัดกลุ่มผู้ใช้งาน (Role-Based Access Control)
ปิดบัญชีผู้ใช้งานที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว - อบรมพนักงาน/ผู้ใช้งานเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Awareness Training)
รายละเอียด:
สอนให้ระวังภัยจากอีเมลปลอม ลิงก์ฟิชชิ่ง โซเชียลวิศวกรรม (Social Engineering)
อัปเดตความรู้เรื่องภัยคุกคามใหม่ ๆ เช่น Ransomware, Zero-day
ทดสอบการตอบสนอง เช่น การจำลองอีเมลฟิชชิ่งในองค์กร
บทความที่เกี่ยวข้อง
องค์กรในประเทศไทยและระดับสากลควรรู้ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย มาตรฐาน และลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์
27 ก.ค. 2025
Ransomware คือมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กร โดยทำการ เข้ารหัสข้อมูล (Encrypt)
27 ก.ค. 2025